กล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอกับไม่มีหน้าจอ เลือกแบบไหนดีกว่าสำหรับคุณ?

กล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอกับไม่มีหน้าจอ เลือกแบบไหนดีกว่าสำหรับคุณ?

กล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอกับไม่มีหน้าจอ เลือกแบบไหนดีกว่าสำหรับคุณ?

ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง “กล้องติดรถยนต์” (Dash Cam) ได้กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่รถแทบทุกคันต้องมี ไม่ว่าจะเพื่อบันทึกเหตุการณ์ระหว่างการขับขี่ ใช้เป็นหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเพื่อเสริมความอุ่นใจในการเดินทาง แต่เมื่อคุณตัดสินใจจะซื้อกล้องติดรถยนต์สักเครื่อง คำถามสำคัญที่หลายคนต้องเจอคือ

“ควรเลือกกล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอ หรือแบบไม่มีหน้าจอดี?”

ทั้งสองแบบต่างก็มีข้อดีและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ความต้องการ และสไตล์ของผู้ขับ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันอย่างละเอียด พร้อมแนะนำแบรนด์ 70mai หนึ่งในผู้นำด้านกล้องติดรถยนต์อัจฉริยะ ที่มีทั้งรุ่น “มีหน้าจอ” และ “ไม่มีหน้าจอ” ให้เลือกตามความเหมาะสม 

ความแตกต่างระหว่างกล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอกับไม่มีหน้าจอ

📺 กล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอ (Screen Dash Cam)

กล้องแบบมีหน้าจอคือรุ่นที่มาพร้อม จอแสดงผลในตัว ซึ่งอาจเป็นหน้าจอขนาดเล็ก 2-3 นิ้ว หรือจอสัมผัสขนาดใหญ่ในรุ่นพรีเมียม เช่นแบบกระจกมองหลัง (Mirror Dash Cam) ผู้ใช้สามารถดูภาพแบบเรียลไทม์จากกล้องหน้า–หลังได้ทันที รวมถึงเปิดดูคลิปย้อนหลังได้จากตัวกล้องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน

📱 กล้องติดรถยนต์แบบไม่มีหน้าจอ (Screenless Dash Cam)

กล้องแบบไม่มีหน้าจอจะมีดีไซน์เรียบหรู ขนาดเล็ก และเน้นการควบคุมผ่าน แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ผู้ใช้สามารถดูภาพสด ดาวน์โหลดวิดีโอ หรือปรับตั้งค่าได้ผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth จุดเด่นคือความมินิมอล ไม่รบกวนทัศนวิสัยการขับขี่

เพราะฉะนั้นกล้องติดรถยนต์ 70mai ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของคนรักรถในยุคปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ไม่ว่าคุณจะชอบ กล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอ ที่สามารถดูภาพและควบคุมการตั้งค่าได้ทันที หรือจะเลือก แบบไม่มีหน้าจอ ที่เน้นความมินิมอล ขนาดกะทัดรัด และควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ทั้งสองแบบต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน กล้องแบบมีหน้าจอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและเห็นภาพได้ทันที ส่วนแบบไม่มีหน้าจอจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการดีไซน์เรียบหรู ไม่บดบังทัศนวิสัย และใช้งานเทคโนโลยีสมาร์ตเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้อย่างลื่นไหล สุดท้ายแล้ว การเลือกกล้องติดรถยนต์ 70mai แบบใดก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน คุณก็มั่นใจได้ในคุณภาพและความคมชัดระดับพรีเมียมจากแบรนด์ 70mai

A800SE.jpg__PID:dce0edaa-46bf-4b41-930c-ecb162243b86

ข้อดีของกล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอ

  1. ดูภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์
    หนึ่งในข้อดีที่เห็นได้ชัดคือความสะดวก สามารถดูว่ากล้องจับภาพถูกมุมหรือไม่ ตรวจสอบคลิปย้อนหลังได้ทันทีหลังเกิดเหตุ โดยไม่ต้องเสียเวลาหยิบโทรศัพท์มาเชื่อมต่อ
  2. ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี
    ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับสมาร์ตโฟนจะรู้สึกสะดวก เพราะทุกอย่างควบคุมผ่านปุ่มหรือตัวจอโดยตรง ไม่ต้องลงแอปหรือเชื่อมต่อ Wi-Fi
  3. ฟังก์ชันบางอย่างแสดงผลได้ชัดเจนกว่า
    รุ่นที่มีหน้าจอมักมาพร้อมระบบแสดงผล ADAS (Advanced Driver Assistance System) เช่น การเตือนเมื่อเบี่ยงเลนหรือเข้าใกล้รถคันหน้า ซึ่งเมื่อแสดงผลผ่านหน้าจอจะเห็นได้ทันที ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
  4. เหมาะสำหรับผู้ใช้รถหลายคน
    หากเป็นรถที่มีผู้ขับหลายคน กล้องที่มีหน้าจอจะใช้งานสะดวกกว่า เพราะไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนของแต่ละคนใหม่ทุกครั้ง

M800@2x(1).png__PID:e634bf0b-2aa4-42ff-a802-352caf4fc06f

ข้อดีของกล้องติดรถยนต์แบบไม่มีหน้าจอ

  1. ดีไซน์เล็ก เรียบ หรู ไม่บดบังทัศนวิสัย
    กล้องแบบไม่มีจอมักมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และติดแนบไปกับกระจกหน้าได้เนียนตา เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ต้องการให้กล้องโดดเด่นหรือบังสายตาขณะขับรถ
  2. ระบบอัจฉริยะและเชื่อมต่อผ่านแอปได้สะดวก
    กล้องรุ่นใหม่อย่าง Dash Cam 70mai M500 หรือ 70mai A800S สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอป “70mai” เพื่อดูภาพแบบเรียลไทม์ ดาวน์โหลดคลิป หรือแชร์วิดีโอได้ทันที ไม่ต้องถอดเมมการ์ดให้ยุ่งยาก
  3. อัปเดตเฟิร์มแวร์อัตโนมัติผ่านแอป
    ผู้ใช้สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือปรับปรุงความเสถียรของกล้องได้โดยตรงผ่านมือถือ ถือเป็นข้อได้เปรียบของกล้องรุ่นที่เน้นเชื่อมต่อ IoT
  4. ระบบ AI และการบันทึกอัตโนมัติที่ฉลาด
    กล้องไม่มีหน้าจอมักเน้นพลังประมวลผลและซอฟต์แวร์ภายใน เช่น ระบบตรวจจับการชน (G-Sensor) การบันทึกอัตโนมัติเมื่อมีแรงสั่นสะเทือน หรือระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection) ที่ใช้ AI วิเคราะห์เหตุการณ์อย่างชาญฉลาด

卖点合集.jpg__PID:c6bb5e51-d11f-4622-8fad-1d027105db2b
กล้องติดรถยนต์ 70mai: ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งสองแบบแบรนด์ 70mai
หนึ่งในผู้ผลิตกล้องติดรถยนต์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ดีไซน์ล้ำสมัย และคุณภาพการบันทึกระดับสูง ไม่ว่าจะเลือกแบบ “มีจอ” หรือ “ไม่มีจอ” ก็มั่นใจได้ว่าภาพคมชัด ฟังก์ชันครบ และเชื่อมต่อได้สะดวก

🔹 ตัวอย่างรุ่นแบบ “มีหน้าจอ”

70mai A800SE / T800 4K Dash Cam

  • จอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว
  • ความละเอียดสูงสุด 4K Ultra HD
  • ระบบ ADAS เตือนเบี่ยงเลนและเตือนการชนด้านหน้า
  • รองรับกล้องหลังเพิ่ม (Dual Channel)
  • โหมดจอดรถ (Parking Surveillance) อัตโนมัติ

รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการกล้องบันทึกภาพคมชัด ดูวิดีโอได้ทันทีจากตัวเครื่อง และต้องการฟีเจอร์ช่วยขับขี่ระดับมืออาชีพ

 ตัวอย่างรุ่นแบบ “ไม่มีหน้าจอ”

70mai Dash Cam M310 / M800

  • ดีไซน์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
  • ความละเอียดสูงสุด 2K
  • มุมมองกว้าง 130°
  • ควบคุมและดูวิดีโอผ่านแอป 70mai
  • ระบบ GPS และ G-Sensor ในตัว
  • รองรับการบันทึกระหว่างจอด

รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ชอบความเรียบหรู ไม่ต้องการจอแสดงผลให้รบกวนสายตา แต่ยังคงได้คุณภาพของภาพและฟีเจอร์อัจฉริยะครบถ้วน

แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

การเลือก “กล้องติดรถยนต์แบบมีจอหรือไม่มีจอ” ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความชอบส่วนตัวของผู้ใช้ เรามีแนวทางง่าย ๆ ให้ตัดสินใจดังนี้

ผู้ใช้ทั่วไป เน้นความสะดวก

กล้องมีจอ (เช่น 70mai A800SE หรือ T800) : ดูภาพได้ทันที ใช้งานง่าย ไม่ต้องเชื่อมต่อมือถือ

ผู้สูงอายุหรือไม่ถนัดเทคโนโลยี

กล้องมีจอ : ควบคุมได้จากตัวเครื่อง ไม่ต้องลงแอป

คนรุ่นใหม่ ชอบดีไซน์มินิมอล

กล้องไม่มีจอ (เช่น 70mai M310) : เล็ก เรียบ ไม่บดบังทัศนวิสัย

ผู้ที่ต้องการระบบ AI อัจฉริยะและอัปเดตผ่านแอป

กล้องไม่มีจอ : เชื่อมต่อมือถือสะดวก อัปเดตซอฟต์แวร์ได้ง่าย

ใช้รถร่วมกันหลายคน

กล้องมีจอ : ไม่ต้องเชื่อมต่อมือถือแต่ละคนใหม่

ต้องการกล้องคุณภาพสูงสุดสำหรับเก็บหลักฐาน

70mai A800SE หรือ T800  4K : ความละเอียด 4K พร้อมระบบ ADAS และ GPS

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาในการเลือกกล้องติดรถยนต์

นอกจากมีจอหรือไม่มีจอ ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นที่ควรพิจารณา เช่น

  • ความละเอียดของกล้อง: อย่างน้อยควรเป็น Full HD (1080p) หรือสูงกว่า เช่น 2.5K / 4K เพื่อภาพคมชัด
  • มุมมองเลนส์: ยิ่งกว้างยิ่งดี (120°–170°) เพื่อเก็บภาพด้านข้างได้ครบ
  • ระบบ G-Sensor: ตรวจจับแรงกระแทกและล็อกไฟล์ไม่ให้ถูกลบอัตโนมัติ
  • การบันทึกแบบ Loop Recording: บันทึกต่อเนื่องโดยลบไฟล์เก่าทิ้ง
  • ฟังก์ชัน Parking Mode: ช่วยบันทึกขณะจอด ลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชน

การรับประกันและศูนย์บริการหลังการขาย: แบรนด์ 70mai มีศูนย์ติดตั้งราคาประหยัด และ บริการหลังการขายในไทยถึง 4 แห่ง ได้แก่ 70mai สาขา รามอินทรา , สาขา กาญจนาภิเษก , สาขา ท่าพระ และ สาขา ชลบุรี ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและการดูแลหลังการขาย

20251121-113641.jpg__PID:a3c051d2-d4de-4e66-aa26-a6ed3d0a80ac
20251121-113641.jpg__PID:a3c051d2-d4de-4e66-aa26-a6ed3d0a80ac

สรุป: กล้องติดรถยนต์แบบไหน “ใช่” สำหรับคุณสุดท้ายแล้ว การเลือกกล้องติดรถยนต์ไม่ใช่เรื่องของ “มีหน้าจอหรือไม่มีหน้าจอ” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ ไลฟ์สไตล์และความสะดวกในการใช้งาน หากคุณต้องการความรวดเร็วในการตรวจสอบคลิป กล้องแบบมีจอคือคำตอบ แต่หากคุณให้ความสำคัญกับความเรียบหรู และการเชื่อมต่ออัจฉริยะผ่านมือถือ กล้องแบบไม่มีจอย่อมตอบโจทย์กว่า